บริษัท สาระดี จำกัด

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัท สาระดี จำกัด ( “ บริษัท ” ) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเว็บไซต์ www.thairealtv.com และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งในการให้ข้อมูลของบริษัท รวมทั้งกลุ่มบริษัทในเครือ เกี่ยวกับองค์กร กลุ่มสายงานบริหารธุรกิจ คณะกรรมการ ทีมผู้บริหาร รวมถึง การเผยแพร่ข่าวธุรกิจบันเทิง ข่าวประชาสัมพันธ์และประกาศการรับสมัครงาน เป็นต้น บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าสิทธิความเป็นส่วนตัวของ ผู้เข้าชม หรือ ใช้เว็บไซต์ รวมถึงบุคคลผู้ใช้บริการในกิจการของบริษัทนั้น บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในความเป็นส่วนตัว และการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าชมหรือใช้เว็บไซต์ รวมถึงผู้ใช้บริการ เพื่อให้บุคคลดังกล่าวมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น บริษัทจึงได้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีหลักเกณฑ์การเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย ประมวลผล ส่งต่อซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีมาตรการกำกับดูแล และ บริหารข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจนและเหมาะสม ดังต่อไปนี้

คำนิยาม

  1.  “ บริษัท ” หมายถึง บริษัท สาระดี จำกัด
  2.  “ ลูกค้า ” หมายถึง ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ผู้ใช้เว็บไซต์ รวมถึง ผู้ซื้อ หรือ ผู้ใช้บริการต่างๆ ของบริษัท และ บริษัทในเครือ
  3. “ ข้อมูลส่วนบุคคล ” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  4.  “ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ” หมายถึง บุคคล หรือ นิติบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  5.  “ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ” หมายถึง บุคคล หรือ นิติบุคคล ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือ ในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  6.  “ บุคคล ” หมายถึง บุคคลธรรมดา
  7.  “ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ” หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการดำเนินการจัดเก็บและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้รั่วไหลไปยังบุคคลภายนอก ติดต่อและประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของบริษัท จึงต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบและขอความยินยอมก่อนเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อประโยชน์ต่อการใช้งานของเจ้าของข้อมูล โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้เป็นความลับ การเก็บข้อมูลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง บริษัทจะแจ้งการจัดเก็บให้เจ้าของข้อมูลทราบไม่เกิน 30 วัน หลังจากการจัดเก็บ

เจ้าของข้อมูลสามารถ มีสิทธิจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท หรือ ไม่ก็ได้ แต่หากเจ้าของข้อมูล ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท อาจมีบริการที่บริษัท อาจไม่สามารถ ให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลได้ หากปราศจากข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูล เกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนา ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม จะอยู่ภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลก่อนเท่านั้น เว้นแต่ บริษัทจะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม ประกันสุขภาพ สวัสดิการรักษาพยาบาล ของลูกจ้าง หรือ ตามที่กฎหมายกำหนด

ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม

การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียง เท่าที่จำเป็น แก่การขาย และหรือ การให้บริการ ภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล ได้รับรู้ ให้ความยินยอม เป็นหนังสือ หรือ ให้ความยินยอมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ โดยสภาพไม่อาจให้ความยินยอมดังกล่าวได้

ทั้งนี้ บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล หลายช่องทาง เช่น

เมื่อเจ้าของข้อมูลสมัครงานกับบริษัท หรือ บริษัทในเครือ ผ่านทางเว็บไซต์ หรือ โทรศัพท์ บริษัทขอทราบข้อมูลที่จำเป็นต่อการสมัครงาน ดังต่อไปนี้ เช่น

  • ชื่อ นามสกุล , ชื่อเล่น, เลขบัตรประชาชน
  • รูปถ่าย, วัน เดือน ปี เกิด
  • เพศ
  • ที่อยู่, อีเมลล์, เบอร์โทรศัพท์มือถือ และ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้
  • สถานะภาพ – โสด สมรส หม้าย/หย่า
  • การศึกษา
  • ประวัติอาชญากรรม (ถ้ามี)
  • อาชีพเดิม
  • หมายเลข IP Address คอมพิวเตอร์ของท่าน (ถ้ามี)

เมื่อเจ้าของข้อมูลติดต่อสอบถามข้อมูล หรือ สนใจบริการของ บริษัท และหรือ บริษัทในเครือ บริษัทอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เป็นต้น

บริษัทอาจพัฒนา จัดเก็บบันทึกข้อมูลของเจ้าของข้อมูล ในการเข้าออก เว็บไซต์ (Log Files) โดยจะจัดเก็บข้อมูล จาก หมายเลขไอพี (IP Address) หรือ เวลาการใช้งาน เป็นต้น โดยให้เจ้าของข้อมูล กรอกแบบฟอร์มในรูปแบบออนไลน์ต่างๆ เช่น ลงทะเบียนเข้าใช้งาน หรือ การติดต่อต่างๆผ่านช่องทาง Social Media ของบริษัท โดยจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของท่านและข้อมูลการติดต่อ หรือ ข้อมูลอื่นใด ที่เป็นประโยชน์ในการให้บริการ บริษัท อาจมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของท่าน ด้วยแบบสอบถาม เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของท่าน รวมถึงข้อมูลต่างๆ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ วันเกิด เพศ เป็นต้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน เก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่

  • เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อเป็นประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือ การพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  • เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอม ไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทในเครือ หรือ ของบุคคล หรือ นิติบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่บริษัท
  • เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกัน หรือ ระงับอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำเอกสาร ประวัติศาสตร์ หรือ จดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ เพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ภายในระยะเวลาที่จำเป็น ตราบเท่าที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสมควรเพื่อป้องกันการเข้าถึง การรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การทำสำเนา การดัดแปลง การกำจัดข้อมูล หรือความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว บริษัทอาจจะลบหรือทำลายทิ้งซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลทันที

วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ เผยแพร่ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อใช้ในการสมัครงานของเจ้าของข้อมูล
  • เพื่อติดต่อและให้บริการ หรือ ตอบคำถามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอ
  • เพื่อการจัดทำฐานข้อมูลของบริษัท หรือ ข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และประวัติการเข้ารับบริการชม Content ของทางบริษัท
  • เพื่อศึกษาและรับทราบข้อมูลสถิติทางประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริษัทรู้จักผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นของบริษัท มากยิ่งขึ้น (ถ้ามี)
  • เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลจากประวัติการรับชมเนื้อหารายการ ร่วมกับประวัติการสืบค้นเนื้อหารายการของผู้ใช้บริการเพื่อนำเสนอเนื้อหารายการที่คาดว่าจะถูกใจ หรือ เป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้บริการ
  • เพื่อประชาสัมพันธ์เนื้อหาคอนเทนต์ (Content) ที่เป็นข้อมูลข่าวสารจากบริษัทรวมถึง การจัดทำรายการส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาคอนเทนต์(Content) ดังกล่าวให้เหมาะสมกับการตลาดของบริษัท
  • เพื่อการวิเคราะห์ ประมวลผล ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด การวิจัย การพัฒนา การขาย การบริการ รวมถึง การประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการต่างๆไม่ว่าจะเป็นของบริษัทเอง บริษัทในเครือ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หรือของบุคคลอื่นผ่านการแจ้งเตือนหน้าจออุปกรณ์พกพา ทาง SMS หรือผ่านทางสื่อ Social และอุปกรณ์อื่นๆ ในอนาคต เป็นต้น
  • เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นของบริษัท ให้เหมาะสมกับความต้องการผู้ใช้บริการ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพื่อเป็นช่องทางติดต่อ ในการรับข้อติชม ข้อเสนอแนะ จากผู้รับชมเพื่อนำมาปรับปรุงเนื้อหารายการของทางบริษัทให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ
  • เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อผู้รับชมที่ร่วมสนุกตอบคำถามในรายการชิงรางวัลและของที่ระลึกจากบริษัท
  • เพื่อการบริหารจัดการบัญชีผู้ใช้งานของท่านที่ลงทะเบียนในระบบของบริษัท เพื่อพัฒนาปรับปรุงให้การใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทในภายหน้า(ถ้ามี) ให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เพื่อการจัดทำฐานข้อมูลและประวัติของพนักงาน
  • เพื่อพิสูจน์ตัวตน ตรวจสอบประวัติการศึกษา และประวัติการทำงานของพนักงาน
  • เพื่อการจัดทำสวัสดิการของพนักงาน การจัดทำกรมธรรม์ประกันชีวิต(ถ้ามี)
  • เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของพนักงาน
  • เพื่อการติดต่อ ประเมินผล และบริหารความสัมพันธ์ของบริษัทกับพนักงาน
  • เพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานแก่บริษัทในเครือ บุคคลผู้รับช่วงสิทธิตามกฎหมายจากบริษัท และ บุคคลอื่น เช่น ธนาคารพาณิชย์ อันเกี่ยวกับประโยชน์ของพนักงานในการขอใช้บริการ หรือ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ สิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันชีวิต สิทธิประโยชน์เงินสวัสดิการ และ/หรือการให้คำรับรองหรือยืนยันเกี่ยวกับสถานะความเป็นพนักงาน ประวัติการทำงาน และ ประวัติการศึกษา รวมทั้ง เพื่อเปิดเผยให้แก่หน่วยงานราชการ และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ
  • เพื่อการบริหารและจัดการความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบ ตลอดจนแนวทางหรือข้อกำหนดต่างๆ ของหน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัท
  • เพื่อการปฏิบัติตามระเบียบการดำเนินการภายในของบริษัทและบริษัทในเครือ
  • เพื่อการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการให้บริการของบริษัท และบริหารความสัมพันธ์ของบริษัทกับท่าน
  • เพื่อศึกษาข้อมูลการใช้งานในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ไปเปิดเผยแก่บุคคลภายนอก เว้นแต่ กรณีดังนี้

  • ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • มีคำสั่งศาล พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ กฎหมาย ให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลโปรดทราบว่า บริษัทอาจส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือด้วยกัน เพื่อการให้บริการแก่ เจ้าของข้อมูลมีประสิทธิภาพและบรรลุตามวัตถุประสงค์ โดยข้อมูลที่อาจส่งต่อ ได้แก่ ชื่อลูกค้าที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ชื่อบริษัท ตำแหน่งงาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขายหรือการให้บริการ โดยจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริการ และ การประชาสัมพันธ์ เท่านั้น ทั้งนี้ เว็บไซต์ของบริษัท หากมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆโปรดทราบว่า บริษัทจะไม่รับผิด ต่อการปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้โดยเว็บไซต์อื่น นอกเหนือจากเว็บไซต์ของบริษัทเอง

การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทให้ความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผย เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ดังนี้

  • เสริมสร้างการดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่ บุคลากร พนักงาน ลูกจ้าง โดยจัดให้มีการฝึกอบรม ให้ความรู้ เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และแนวทางปฏิบัตตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
  • บริษัทจำกัดคนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ สำหรับพนักงาน ลูกจ้าง ที่จำเป็นต้อง ทราบข้อมูลนั้น เพื่อทำการประมวลผลข้อมูล โดยที่บุคคลเหล่านั้นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาอย่างเข้มงวด
  • กำหนดมาตรการที่เหมาะสม สำหรับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หรือ ข้อมูลที่อาจกระทบต่อความรู้สึก ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
  • ในกรณีที่บริษัท ว่าจ้างบริษัทอื่นๆ เพื่อให้บริการในนามของบริษัท และมอบให้บริษัทเหล่านั้นรับผิดชอบในการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเลือกผู้รับเหมาช่วงที่เหมาะสม และกำหนดให้บริษัทดังกล่าวลงนามในข้อตกลงทั้งหมดที่จำเป็นเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังใช้มาตรการความปลอดภัยทั้งหมดตามที่กฎหมายกำหนดไว้

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญอย่างมาก เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือ ทางโทรศัพท์ เพื่อแจ้งความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้บริษัทรับทราบได้ โดยบริษัทจะพิจารณาและดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยทำการ ลบ ทำลาย หรือ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่บริษัทจัดเก็บไว้ หรือ ให้บริษัทดำเนินการ ให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็น ข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอนั้น ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถแจ้งความประสงค์กับบริษัท ได้ตามสิทธิ ดังนี้

  • การคัดค้านหรือเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูล มีสิทธิโต้แย้ง หรือ คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูล และจะไม่เก็บรวบรวม เปิดเผย ส่งต่อ หรือนำไปใช้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอีกต่อไป การเพิกถอนความยินยอม นั้น อาจมีบางบริการที่ให้ บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลได้ หากปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ทราบถึง ผลของการเพิกถอนความยินยอมภายหลังจากที่บริษัทได้รับคำร้องขอเพิกถอน
  • การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล โดยบริษัทจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ เจ้าของข้อมูลภายในกำหนดระยะเวลา 30 วัน นับแต่มีการส่งคำขอถึงบริษัท
  • การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถ ขอให้บริษัทแก้ไข ให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ขาดหายในข้อมูลส่วนบุคคล ให้ถูกต้องสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • มีสิทธิขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
  • การขอให้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
  • การถอนความยินยอมเจ้าของข้อมูล มีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ แต่การถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูล จะไม่กระทบต่อการ เก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล คือ ประธานกรรมการบริหาร มีหน้าที่อนุมัติเกี่ยวกับ การเก็บ รวบรวมใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ติดต่อและประสานงานกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล คือ พนักงานที่ทำหน้าที่ ประมวลผลข้อมูล ได้แก่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล(HR),จัดซื้อ,บัญชี-การเงิน, ฝ่ายการตลาด,ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ, ฝ่ายกฎหมาย และ แผนกประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการ เก็บ รวบรวมใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่ง หรือ ในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ช่องทางการติดต่อ

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถศึกษารายละเอียดได้ ที่นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือ แจ้งความประสงค์ในการเพิกถอนความยินยอม แก้ไขเปลี่ยนแปลง และคัดค้าน
ติดต่อได้ที่ : 333/3 หมู่บ้านรัชดานิเวศน์ ซอย 19 ถนนประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทรศัพท์ :  026917446
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XnmLbWqpjoCSMEC36