รวบแล้วโจรแสบตระเวนขโมยล้อทั่วปราจีน

และยังพบล้อแม็กและยางอยู่บริเวณเบาะหลัง ส่วนเบาะด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารพบตะกร้าผ้าสบู่ยาสีฟันของเครื่องใช้ส่วนตัววางอยู่ คาดว่าผู้ต้องหารายนี้จะไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้าน โดยจะอาศัยนอนตามปั๊มน้ำมัน และจะขับรถตะเวนไปทั่วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเพื่อลงมือก่อเหตุขโมยล้อรถ โดยลงมือก่อเหตุมาแล้ว มากกว่า 11 ครั้ง โดยอาศัยขโมยล้อรถของชาวบ้านที่จอดในพื้นที่เปลี่ยว และจะนำล้อรถที่ขโมยมา ไปขายต่อยังร้านรับซื้อของเก่า

จากการสอบถาม นายสุกัลย์ เหลืองพรนุวัฒน์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ ผู้เสียหาย ที่ถูกโจรกรรมล้อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณวานหรือวันซืน ช่วงกลางคืน ได้จอดรถ ไว้ บริเวณข้างวัด ใหม่กรงทอง โดยจนตรอกรถไว้ตรงนี้มาหลายปีแล้ว พฤติกรรม โจรได้ใช้แม่แรงขึ้นล้อทึ้ง3ล้อ และได้ถอดล้อไปได้ 3 ล้อและเอาไม้หนุนได้ ส่วนอีกล้อคาดว่าน่าจะมีคนผ่านไปมา โจรเลยถอดไม่ทัน หลังจากนั้นช่วงเช้าก็ได้มาแจ้งความไว้ที่สภศรีมหาโพธิ ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ก็สามารถติดตามและจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบศรีมหาโพธิและทางผู้กำกับศรีมหาโพธิที่ติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

ทางด้านพ.ต.อ.มงคล  โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ กล่าวว่า จากกรณีที่มีเคสลักล้อรถได้มีผู้เสียหายตั้งแต่วันที่ 20 ที่ผ่านมาที่ได้ไปปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียนท่าตูม ปรากฏว่ารถกระบะที่ได้ขับมาได้ถูกถอดล้อไป 1 ล้อ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถต้องสงสัยเป็นรถ Nissan March สีเขียว หลังจากนั้นก็ได้ติดตามดูกล้องวงจรปิดจนมีเหตุลคกลล้อรถในพื้นที่ ต. ท่าตูม อีก 1 เคส ในระหว่างที่ประชาสัมพันธ์ไปในหน่วยงานที่ใกล้เคียงปรากฏว่า มีโรงพักใกล้เคียงที่เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันมีจำนวนหลายที่ คือ ในพื้นที่ อ.กบินทร์ อ.ประจันตคาม และเมืองปราจีนบุรี ก็ได้ช่วยกันสืบสวนติดตาม  จนในที่สุดช่วงเช้าของวันนี้ได้ไปพบตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนในพื้นที่

เมื่อเช้าไปพบนั่งทานข้าวอยู่ที่โปร่งไผ่จึงได้แสดงตัวและขอตรวจสอบปรากฏว่าเป็นเจ้าของรถ Nissan March สีเขียว จากการตรวจสอบภายในรถพบล้อแม็กที่พึ่งไปขโมยมาจากเมืองปราจีนบุรี และมีอุปกรณ์รองล้อไว้สำหรับไม่ให้รถเสียการทรงตัว ทางด้านผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพทุกเคสทั้งของศรีมหาโพธิ ตัวเมืองปราจีนอีก 7 เคส ของประจันตคามและกบินทร์บุรี ตอนนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทุกโรงพักมาร่วมกันช่วยขยายผลเพื่อจะได้ดำเนินคดีต่อไป มีการแจ้งข้อหาในเคสแรกคือลักทรัพย์ในสถานที่ราชการโดยใช้ยานพาหนะ เคสที่ 2 ลักทรัพย์ในเวลลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ

ขอเตือนพี่น้องประชาชนที่จอดรถ 2-3 ชั่วโมง ให้จอดบริเวณที่ปลอดภัยโดยจอดบริเวณร้านค้าที่มีคนเห็นหรือมีกล้องวงจรปิดก็จะปลอดภัย เท่าที่สังเกตุเคสที่ล้อหายส่วนใหญ่จะไปจอดแอบที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและไม่มีคนพลุกพล่าน